ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) เตรียมเดินหน้าสู่ยุคใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารสู่เจเนอเรชันใหม่

ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) เตรียมเดินหน้าสู่ยุคใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารสู่เจเนอเรชันใหม่

ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) เดินหน้าตามแผนการเปลี่ยนผ่านคณะกรรมการบริหารสู่เจเนอเรชันใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2025 เวร่า ชาลวิก (Vera Schalwig) อายุ 45 ปี จะเข้ารับตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและกิจการสังคม แทนที่ อันเดรียส ฮัฟฟ์เนอร์ (Andreas Haffner) วัย 59 ปี ในช่วงเวลาเดียวกัน โยอาคิม ชาร์นากล (Joachim Scharnagl) อายุ 49 ปี จะเข้ารับตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายจัดซื้อ แทนที่ บาร์บารา เฟรนเคล (Barbara Frenkel) วัย 62 ปี ปัจจุบัน ชาลวิกดำรงตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Head of Human Resources) ที่สำนักงานใหญ่ของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ในเมือง สตุ๊ทการ์ท-ซุฟเฟนเฮาเซน (Stuttgart-Zuffenhausen) ส่วนชาร์นากล ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อสำหรับโครงการรถยนต์รุ่นใหม่และการบริหารจัดการซัพพลายเออร์ (Head of Procurement for New Vehicle Projects and Supplier Management)

โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2025 ดร. ไมเคิล ชไตเนอร์ (Dr. Michael Steiner) วัย 60 ปี จะเข้ารับตำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการบริหาร (Deputy Chairman of the Executive Board) ดร. ชไตเนอร์ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา (Board Member for Research and Development) ของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) มาตั้งแต่ปี 2016 และในบริบทของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เขาจะยุติบทบาทในตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายพัฒนากลุ่ม (Group Development) ของ โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป (Volkswagen Group)

ดร. วูล์ฟกัง ปอร์เช่ (Dr. Wolfgang Porsche) ประธานคณะกรรมการกำกับ (Chairman of the Supervisory Board) กล่าวว่า “การแต่งตั้ง เวร่า ชาลวิก (Vera Schalwig) และ โยอาคิม ชาร์นากล (Joachim Scharnagl) เราได้นำสองบุคลากรที่มีประสบการณ์สูงจากภายในองค์กรขึ้นดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหาร ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสืบสานความแข็งแกร่งจากภายใน เรายังรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ ดร. ไมเคิล ชไตเนอร์ (Dr. Michael Steiner) จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเขามาช่วยเสริมบทบาทในตำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการบริหาร ด้วยเช่นกัน ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณ อันเดรียส ฮัฟฟ์เนอร์ (Andreas Haffner) และ บาร์บารา เฟรนเคล (Barbara Frenkel) สำหรับความทุ่มเทอันยิ่งใหญ่และการอุทิศตนให้กับปอร์เช่มาอย่างยาวนาน พวกเขาทั้งสองมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรตลอดช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง”

อันเดรียส ฮัฟฟ์เนอร์ (Andreas Haffner) เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับปอร์เช่เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว และได้ดำรงตำแหน่งผู้นำหลากหลายบทบาทภายในองค์กร ตั้งแต่ปี 2015 เขาดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและกิจการสังคม โดยมีบทบาทสำคัญในการนำพาองค์กรผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านต่าง ๆ และรักษาวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับปอร์เช่ในฐานะ นายจ้างที่น่าดึงดูดใจ ซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของเขาได้อย่างชัดเจน

บาร์บารา เฟรนเคล (Barbara Frenkel) เข้าร่วมงานกับปอร์เช่ในปี 2001 หลังจากดำรงตำแหน่งผู้บริหารในอุตสาหกรรมซัพพลายเออร์ต่างประเทศมาแล้วหลายแห่ง และต่อมาได้ดำรงตำแหน่งผู้นำระดับสูงหลากหลายบทบาทภายในองค์กร ในปี 2021 เธอกลายเป็น ผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ภายใต้แรงกดดันจากสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของโควิด-19 วิกฤตเซมิคอนดักเตอร์ และสงครามในยูเครน เธอมีบทบาทสำคัญในการ เสริมความแข็งแกร่งให้กับความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Resilience) นอกจากนี้ เธอยังมีบทบาทอย่างต่อเนื่องในการ ผลักดันความยั่งยืนในซัพพลายเชน และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมซัพพลายเออร์สู่แนวทางที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

ดร. โอลิเวอร์ บลูมเม (Dr. Oliver Blume) ประธานคณะกรรมการบริหารของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) กล่าวว่า “เวร่า ชาลวิก (Vera Schalwig) และ โยอาคิม ชาร์นากล (Joachim Scharnagl) ต่างมีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งจากบทบาทเดิม และมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาขับเคลื่อนปอร์เช่ (Porsche) ได้อย่างมีประสิทธิภาพในบทบาทใหม่ตั้งแต่วันแรก เราจะมุ่งเน้นให้ ไมเคิล ชไตเนอร์ (Michael Steiner) ใช้ความเชี่ยวชาญของเขาในการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตของปอร์เช่ให้มากยิ่งขึ้น และผมขอขอบคุณ บาร์บารา เฟรนเคล (Barbara Frenkel) และ อันเดรียส ฮัฟฟ์เนอร์ (Andreas Haffner) สำหรับความร่วมมืออันดีและใกล้ชิดที่เรามีต่อกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมกันสร้างความสำเร็จไว้อย่างมากมาย”