การแข่งรถสูตรหนึ่ง F1 คาดเปิดโอกาสไทยเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวกว่า 7 พันล้านบาท

การแข่งรถสูตรหนึ่ง F1 คาดเปิดโอกาสไทยเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวกว่า 7 พันล้านบาท

ปัจจุบันกีฬาแข่งรถสูตรหนึ่ง (F1) กำลังเร่งปรับตัวด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม (ESG) อย่างจริงจัง เพื่อที่จะบรรลุ Net Zero Carbon หรือการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2030 ขณะที่ประเทศไทยได้ยื่นข้อเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน F1 ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญที่จะเชื่อมโยงไทยกับเวทีระดับโลก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสีเขียว

นวัตกรรมจากรถแข่ง F1 มักถูกนำไปประยุกต์ใช้กับรถยนต์ทั่วไป เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มความเร็ว และเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยคาร์บอน ความพยายามด้าน ESG ของ F1 ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึงวงการยานยนต์และกีฬาอื่นๆ

ในปี 2022 กีฬา F1 ปล่อยคาร์บอนกว่า 2.23 แสนตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยคาร์บอนจากประเทศเล็กๆ อย่างวานูอาตู ตองก้า หรือโดมินิกา โดยการปล่อยคาร์บอนเกือบครึ่งหนึ่ง (49%) มาจากการขนส่ง ตามด้วยการเดินทางเพื่อธุรกิจ (29%) การจัดอีเวนท์ (12%) โรงงานและสิ่งอำนวยความสะดวก (10%) ส่วนรถแข่ง F1 ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า 1% ของทั้งหมด

FIA ผู้ดูแลการแข่งขัน F1 วางแผนลดการปล่อยคาร์บอนผ่าน 6 แนวทางสำคัญ ได้แก่ 1) เปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ให้สร้างไฟฟ้าได้มากขึ้น 2) ใช้พลังงานยั่งยืน 100% ในรถแข่ง 3) ใช้พลังงานสะอาดในการขนส่ง 4) ใช้พลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้า 5) จัดการขยะแบบหมุนเวียนครบวงจร และ 6) ลดการปล่อยคาร์บอนจากการเดินทางของผู้ชม

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า หากไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน F1 คาดว่าจะดึงดูดผู้ชมราว 2-3 แสนคน ช่วยกระตุ้น GDP 0.04% ต่อปี หรือคิดเป็น 0.4% ของรายได้จากการท่องเที่ยวไทย และมีการใช้จ่ายราว 7 พันล้านบาทในช่วงสุดสัปดาห์แข่งขัน โดยใช้ระยะเวลาคืนทุน 3-4 ปี

ทั้งนี้ การจัดการแข่งขัน F1 ในไทยจะเปิดโอกาสทางธุรกิจใน 2 ด้านหลัก คือ ภาคการท่องเที่ยวที่จะได้ประโยชน์จากการโปรโมทประเทศและธุรกิจไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 30% ของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยภายในปี 2030

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลต้องการเป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน F1 จำเป็นต้องอุดหนุนการลงทุน เช่นเดียวกับรัฐบาลสิงคโปร์ที่อุดหนุน 60% ของต้นทุนการลงทุนและค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่อปี เพื่อให้การจัดการแข่งขันประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศ